Thai Sex Stories | สนุกกันฉันท์ครอบครัว - วางแผนเสียตัว

สราวลีเดินคู่ไปกับรณกรในที่จอดรถของมหาวิทยาลัย อันที่จริงเธอกับรณกรรู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก แต่เพิ่งจะมาคบกันแบบแฟนเมื่อไม่นานมานี้เอง เธอรู้อยู่เต็มอกว่ารณกรอยากจะเย็ดเธอมาก แต่เธอก็สามารถหลบเลี่ยงไปได้ตลอดทุกครั้ง เธอยอมให้เขาลูบคลำจับต้องหน้าอกและหีเธอสองสามครั้ง และเมื่อสัปดาห์ก่อนที่ไปดูหนังด้วยกัน เธอก็ยอมใช้มือช่วยกระทอกควยของเขาจนน้ำกระฉูด แต่ก็ไม่มีอะไรเกินเลยมากไปกว่านั้น

ในเรื่องนี้ เขาช่างเป็นสุภาพบุรุษเสียจริงๆ ยอมโอนอ่อนผ่อนตามใจเธอทุกครั้ง โดยไม่พยายามฝืนเธอให้ทำในสิ่งที่เธอไม่ต้อง การทำ และไม่ป่าวประกาศเรื่องระหว่างเขากับเธอให้คนอื่นรู้เหมือนผู้ชายคนอื่นๆ ดูเอาเถอะ แม้แต่ตอนนี้ เขายังก้มลงมาจูบเธออย่างสุภาพ ก่อนจะเปิดประตูรถและปิดให้หลังจากที่เธอเข้าไปนั่งในที่นั่งข้างคนขับแล้ว
“คืนนี้คุณว่างหรือเปล่าครับ?” เขาเอ่ยถามพร้อมรอยยิ้มอันอบอุ่น ในขณะที่เคลื่อนรถออกจากที่จอดรถมุ่งตรงกลับบ้านของเธอ
“มีรายการพิเศษมาแนะนำหรือเปล่าล่ะคะ?” เธอตอบ ตาเป็นประกายด้วยความขบขัน
“ก็..พ่อแม่ผมไม่อยู่บ้านทั้งคืน แล้วคืนนี้ก็มีหนังดีทางเคเบิ้ลทีวีตอนสามทุ่ม อยากชวนคุณมาดูที่บ้านผม ดีกว่าไปดูที่โรงหนัง”
“เป็นหนังเกี่ยวกับอะไรหรือคะ” เธอถาม ทั้งที่ในใจไม่สนใจว่ามันจะเป็นหนังอะไร
เธอเกือบเผลอหัวเราะออกมาเมื่อเขาหน้าแดง หันมามองเธอด้วยสีหน้าปูเลี่ยน ๆ
“ผม...ผมจำไม่ได้” เขาเอ่ยตอบในที่สุด
“ฟังดูน่าสนใจดีนะคะ” เธอตอบ แล้วก็หัวเราะงอหาย
“ผมจะมารับคุณที่บ้านราวๆ ทุ่มนึง โอเคไหมครับ?” เขาถามในขณะที่ชะลอรถจอดที่หน้าบ้านเธอ
“โอเคค่ะ” เธอบอกเขา ก่อนลงจากรถและเข้าไปในบ้าน
ไม่มีใครอยู่ในบ้าน สราวลีรีบลงมือทำอาหารเย็นให้พ่อ เพราะรู้ว่าวันนี้พ่อเธอจะกลับบ้านเร็วกว่า ทุกวันและคงจะหิวมาแน่ๆ เธอชอบทำอาหารให้พ่อ อันที่จริง เธอยอมรับกับตัวเองว่า เธอรักที่จะทำทุกอย่างให้กับพ่อ มันเป็นเหมือนเรื่องปกติเป็นธรรมชาติที่สุดแล้ว เธอไม่เข้าใจจริงๆ ว่าทำไมพ่อเธอจึงต้องทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไปด้วยการแต่งกับเขมิกาและให้ ทั้งเขมิกาและลูกชายทั้งสองย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านเดียวกัน

เธอทำทุกอย่างให้พ่อเหมือนกับแม่ ยกเว้นเรื่องเซ็กส์เพียงอย่างเดียว ซึ่งเธอก็ให้สัญญากับตัวเองว่า เธอจะแก้ไขเรื่องนี้ในไม่ช้า ความจริงแล้ว ที่เธอยอมตกลงไปบ้านรณกรคืนนี้ก็เพราะเธอต้องการเริ่มต้นเรียนรู้เรื่องเพศ ศึกษานั่นเอง โดยเธอเตรียมหัวข้อที่จะเรียนอยู่ในใจแล้ว ซึ่งเธอเชื่อว่าจะทำให้รณกรมีความสุขได้พร้อมๆ กับที่เธอได้เรียนรู้สิ่งที่เธอต้องการ เธอเพิ่งตั้งโต๊ะเสร็จในขณะที่พ่อเธอเข้ามาในบ้าน เขาเดินมาข้างหลังแล้วกอดเธอไว้ในอ้อมอกอย่างแนบแน่น แล้วหอมแก้ม “สวัสดีจ้ะ จอมซุกตัวน้อยของพ่อ” เขาทักทายในขณะที่เธอเอนหลังไปซบอกพ่อ และรู้สึกได้ถึงท่อนควยของเขาที่ดัน กางเกงออกมาวางอยู่บนร่องก้นเธอ “จอมซุกน้อย” เป็นชื่อเล่นที่พ่อเธอตั้งให้ตั้งแต่ตอนที่เธอยังแบเบาะเพราะเธอชอบซุกตัว หลับอยู่ในอ้อมอกของเขา

“สวัสดีค่ะพ่อ” เธอทักตอบอย่างอารมณ์ดี “อาหารเย็นเกือบเสร็จแล้วค่ะ แต่พ่อจะอาบน้ำก่อนก็ได้นะคะ”
“เหม็นสาบพ่อเหรอลูก” เขาหยอกเธอพร้อมกับปล่อยเธอจากอ้อมกอด ทำให้สราวลีรู้สึกอ้างว้างขึ้นมาอย่างกระทันหัน
“แหมพ่อนี่ล่ะก็” เธอตอบพร้อมกับหันมาหาเขา รอยยิ้มระบายอยู่บนใบหน้าสวยคม “พ่อก็รู้ว่าหนูน่ะชอบกลิ่นตัวพ่อจะตายไป หนูน่ะไม่ว่าอะไรหรอก จะกินเลยตอนนี้ก็ยังได้ ที่ถามน่ะเผื่อว่าอาบน้ำแล้วพ่อจะได้สบายตัวขึ้น ก็แค่นั้นแหละ”
“ก็ดีนะลูก ขอเวลาพ่อสักห้านาทีนะ”

หลังจากที่พ่อเธอเดินออกไป ทิ้งให้เธออยู่ในครัวคนเดียว สราวลียังรู้สึกได้ถึงสัมผัสอันแผ่วเบาของควยพ่อในใจเธอ ยังจำได้ถึงวงแขนที่โอบรัดเธอไว้โดยมือของพ่อเกือบจะสัมผัสฐานนมเธอ สราวลีรู้สึกเลือดสาวฉีดซ่านไปทั่วตัวเธอด้วยความเขินอายและความปรารถนาใน อารมณ์ก่อนที่จะหันกลับไปจัดโต๊ะอาหารจนเสร็จ

พ่อเธอเดินลงมาในอีกห้านาทีถัดมา สวมยีนส์เก่าๆ และเสื้อที-เชิร์ตซึ่งเน้นให้เห็นถึงสรีระอันกำยำแข็งแรง เธอมองดูเขาแล้วไม่อยากเชื่อเลยว่าพ่อเธออายุ 40 แล้ว มากกว่าเธอตั้งสองเท่า เธอเคยได้ยินเพื่อนสาวของเธอสองสามคนเอ่ยชมพ่อเธอกับเธอว่า เขาเป็นพ่อที่หล่อเหลามาดเข้มที่สุดในบรรดาพ่อๆ ทั้งหลาย ยิ่งไปกว่านั้น เพื่อนเธอบางคนยังแย็ปปิดท้ายให้สราวลีคิดหนักในทำนองว่า พวกเธอยินดีที่จะให้พ่อของสราวลีเย็ดถ้าโอกาสอำนวย ซึ่งแน่นอนว่าสราวลีจะไม่ยอมเปิดโอกาสให้เพื่อนเธอกลุ่มนั้นโดยเด็ดขาด
“คืนนี้หนูมีโปรแกรมไปไหนหรือเปล่า” เขาถามในระหว่างที่ทั้งคู่รับประทานอาหาร
“ถ้าพ่อไม่ว่าอะไร หนูคิดว่าจะไปดูหนังเคเบิ้ลที่บ้านรณกรค่ะ”
“พ่อจะไปว่าอะไรล่ะ หนูชอบเขาใช่ไหม หือม์”
สราวลีหันกลับมามองพ่อเธอจากเขียงที่เธอกำลังหั่นหมูยอให้เขา “ชัวร์อยู่แล้วค่ะพ่อ” เธอตอบพร้อมกับยื่นจานหมูยอให้เขาแล้วนั่งลงตรงข้าม “หนูไม่มีทางออกไปเที่ยวกับคนที่หนูไม่ชอบหรอก”
“ว้า พ่อไม่ได้หมายความยังงั้น” เขาพูดยิ้มๆ “พ่อหมายความว่าหนูชอบเขามาก พ่อก็คิดว่าเขาเป็นคนดีคนหนึ่งที่หาได้ยากในสมัยนี้ เป็นคนเพียงไม่กี่คนที่พ่อกล้าฝากคนที่พ่อรักที่สุดไว้กับเขา”
“อ๋อ” เธอตอบเบา ๆ รู้สึกอบอุ่นในความรักที่เธอมีให้พ่อ
สองสามนาทีต่อมา ทั้งสองรับประทานอาหารเงียบๆ แต่ตอนที่เธอลุกขึ้นเก็บกวาดโต๊ะอาหาร พ่อเธอยื่นแขนออก ดึงเธอเข้ามาหาเขาอย่างนุ่มนวล สราวลีนั่งลงบนตักพ่อ รู้สึกถึงวงแขนอันแข็งแรงที่โอบเธอไว้อย่างอบอุ่น เธอรู้สึกปลอดภัยและชอบที่พ่อโอบกอดเธอแบบนี้ แต่พักหลังมานี้เขากอดเธอน้อยลงไปเรื่อยๆ โดยเธอไม่เข้าใจเหตุผลเอาเสียเลย ดูเหมือนเขาจะลังเลที่จะโอบกอดเธอเหมือนเก่า

สราวลีบิดตัวบนตักของเขา หาตำแหน่งที่นั่งสบายและสามารถมองเห็นหน้าพ่อเธอได้ แล้วก็รู้สึกว่ามีอะไรขยับยุกยิกอยู่ตรงก้นเธอ อาวว์ นี่ควยของพ่อเธอกำลังตื่นเพราะเธอหรือนี่ มันเกือบทำให้ความรู้สึกของเธอลุกโชนขึ้นจนควบคุมไม่ได้ นี่ถ้าพ่อเธออุ้มเธอขึ้นวางบนโต๊ะอาหาร กระชากกางเกงยีนส์เธอออก แล้วเย็ดเธอตรงนั้นเลย เธอคงยอมตายได้เลยทีเดียว
“หนูไม่อยากให้พ่อแต่งกับเขมิกาใช่ไหม” จู่ๆ เขาก็ถามขึ้นมาเบาๆ
“จะให้หนูพูดความจริงหรือเปล่าล่ะคะ”
“แน่อยู่แล้วจ้ะ”
“หนูไม่อยากให้พ่อแต่งงานใหม่”
“หนูไม่ชอบเขมิกาเหรอ”
“ไม่ใช่ยังงั้นค่ะพ่อ” สราวลีตอบพร้อมกับเบือนหน้าหนีเพื่อไม่ให้พ่อเธอเห็นปฏิกิริยาที่เกิดจากควย ของเขาบนใบหน้าเธอ “หนูหมายความว่า คุณเขมิกาเธอก็เป็นคนดี แถมสวยอีกต่างหาก เพียงแต่หนูไม่เห็นความจำเป็นที่จะต้องเอาเธอเข้ามาอยู่ร่วมครอบครัวกับเรา เท่านั้นเอง”
“พ่อต้องการเธอน่ะ ตัวน้อยของพ่อ” เขาตอบหลังจากชะงักไปชั่วครู่ “หลังจากแม่ของหนูจากไป พ่อก็คิดว่าคงไม่สามารถรักใครได้อีกแล้ว และก็ไม่ได้มีอะไรกับผู้หญิงคนไหนตั้งแต่นั้นมา แต่พ่อยอมรับว่าพ่อยังมีความต้องการอยู่ ซึ่งเขมิกาเขาก็สามารถเติมเต็มในส่วนนั้นให้กับพ่อได้”
“เหตุผลเพียงแค่เรื่อง..เซ็กส์...เท่านั้นเหรอคะ” เธอโพล่งออกไป รู้สึกตกใจในความตรงไปตรงมาของตัวเธอเอง
“ไม่ใช่แค่เรื่องนั้นเรื่องเดียวหรอกลูก” เขาตอบพร้อมกับหัวเราะเบาๆ “ถ้าเป็นแค่เรื่องเซ็กส์ พ่อจัดการเองได้ ไม่ต้องแต่งงานหรอก มันมากไปกว่านั้น มันเป็นเรื่องของการมีเพื่อนคู่ชีวิตที่จะแบ่งปันทุกอย่างด้วยกันต่างหาก”
“แล้ว...แล้วถ้าหนูบอกว่าไม่อยากให้พ่อแต่งกับเธอ พ่อจะทำตามที่หนูต้องการหรือเปล่าล่ะคะ”
เขานิ่งเงียบไปในขณะที่ครุ่นคิดเรื่องนี้ สราวลีรู้สึกโกรธตัวเองที่ทำให้พ่ออยู่ในจุดที่ต้องเลือกระหว่างลูกสาวกับผู้หญิงที่เขารัก
“พ่อเองก็ไม่รู้” เขาตอบเธอเบา ๆ “พ่อไม่เคยทำให้ลูกสาวของพ่อคนนี้ต้องเสียใจทั้งในอดีตและจะไม่มีทางทำเช่น นั้นในอนาคต แต่พ่อเองก็ต้องคิดถึงชีวิตของตัวเองด้วย ถึงอย่างไรลูกก็ต้องจากบ้านไปในที่สุด จะเป็นเพราะหน้าที่การงาน หรือมีครอบครัวเป็นของตัวเองกับคนที่ลูกรัก ถึงตอนนั้นพ่อก็จะต้องอยู่ตัวคนเดียวในบ้านหลังนี้”
“หนูจะไม่ทิ้งพ่อไปไหนหรอกค่ะ” สราวลีตอบพร้อมกับจ้องตาของพ่อ “หนูรักพ่อ อยากให้พ่อมีความสุข แต่..เอ่อ พ่อจะเลื่อนการแต่งงานออกไปก่อนได้ไหมคะ เอาเป็นหลังจากที่หนูจบมหา’ลัยแล้วก็ได้ ก็อีกแค่สองปีเท่านั้นเอง ถ้าพ่อกับคุณเขมิการักกันจริง เวลาแค่นี้คงจะไม่นานเกินรอหรอก”

ก่อนที่พ่อของเธอจะตอบ ก็มีเสียงเคาะประตู ทำให้ทั้งคู่สะดุ้งเล็กๆ สราวลีลุกขึ้นไปเปิดประตู ปรากฏว่าเป็นรณกรนั่นเองที่ยืนรออยู่
“สวัสดีค่ะ เข้ามาก่อนสิคะ” เธอเชิญเขาด้วยรอยยิ้ม “ขอเวลาแต่งตัวซักสิบนาทีเท่านั้นแหละค่ะ”
ในขณะที่สราวลีหันเดินขึ้นบันไดไป พ่อของเธอก็เดินเข้ามาในห้องรับแขก เรียกให้รณกรเข้ามานั่งรอข้างใน แล้วถามว่าเขาอยากดื่มอะไรก่อนไหมในระหว่างที่รอ สราวลีรีบเดินเข้าไปในห้องนอนของเธอ ถอดกางเกงยีนส์และเสื้อยืดออก ก้าวฉับๆ ไปที่ตู้เสื้อผ้าเลือกเอากระโปรงสั้นเหนือเข่าและเสื้อยืดตัวใหม่ออกมา เธอรู้ว่าที่จริงน่าจะอาบน้ำเสียก่อนแต่เนื่องจากเลยเวลานัดไปมากแล้ว เธอจึงฉีดน้ำหอมแล้วก็แต่งตัวเลย

ในตอนที่กำลังจะใส่เสื้อ สราวลีมองภาพสะท้อนของตัวเธอเองในกระจก แล้วด้วยรอยยิ้มซุกซน เธอก็ถอดบราออก โยนมันไว้บนเตียง จากนั้นก็ค่อยใส่เสื้อยืด แล้วยิ้มเมื่อเห็นหัวนมของเธอดันเนื้อผ้านูนออกมา เธอสวมรองเท้าแตะแล้วก็ตรงไปที่ประตู

คืนนี้แหละที่เธอจะใช้รณกรให้เป็นประโยชน์ แต่เธอเชื่อว่าตัวรณกรเองก็คงไม่รังเกียจ เธอจะใช้เขาเพื่อทดลองว่า เธอจะปรนเปรอพ่อเธออย่างไรให้เขามีความสุข และถ้าตัวรณกรเองก็มีความสุขไปด้วยก็ยิ่งดีเข้าไปใหญ่

เมื่อเธอลงมาชั้นล่าง ก็เห็นพ่อเธอกับรณกรคุยกันหัวเราะร่วน เธอเดินเข้าไปหอมแก้มพ่อแล้วก็จูงมือรณกรเดินออกจากบ้านไป เมื่อสราวลีหันกลับมามอง เธอไม่แน่ใจว่าเธอคิดไปเองหรือเปล่าที่เห็นสีหน้าพ่อเธอเต็มไปด้วยความ ปรารถนาในตัวเธอ เธอเกือบจะหาข้ออ้างกลับมาบ้านก่อนกำหนดเพื่อจะได้มาดูให้ชัด ๆ แต่แล้วก็เปลี่ยนใจ เธอต้องทำไปตามแผนที่เธอวางไว้ มันมีความสำคัญกับเธอมาก

แต่เธอก็ไม่สามารถสลัดภาพใบหน้าของพ่อออกไปจากความคิดได้ในระหว่างที่นั่งรถ ไปกับรณกร เธอเคยไปเที่ยวบ้านรณกรหลายครั้งแต่พ่อและแม่ของเขาอยู่บ้านตลอด นี่เป็นครั้งแรกที่ทั้งคู่อยู่ตามลำพัง สราวลีรู้สึกตื่นเต้นกังวลใจ แต่ก็รู้ว่าคืนนี้จะเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญในชีวิตของเธอ